คู่มือท่องเที่ยวโมนาโก : ตะลุยเที่ยวได้ง่าย ๆ ในเมืองที่ชาวไทยหลายคนยังไม่รู้จัก!

โมนาโก หรือชื่อทางการคือ ราชรัฐโมนาโก เป็นนครรัฐ ในโซนยุโรปตะวันตก ตั้งอยู่บริเวณเฟรนช์วีเอรา ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส แต่ภูมิอากาศค่อนข้างร้อนเล็กน้อยถึงปานกลาง แตกต่างไปจากโซนอื่น ๆ ในยุโรปพอสมควร เนื่องจากอยู่ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ตอนนี้ถือเป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลกแต่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก แถมยังเป็นจุดยอดนิยมในการท่องเที่ยวพักร้อน ท่ามกลางหาดทราย สายลม และบรรยากาศสุดลักชูรี สำหรับนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่มองหาที่เที่ยวสำหรับคู่รักหรือครอบครัวในช่วงหยุดยาว รวมถึงยังเป็นเขตเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเล็ก ๆ จุดใหม่ของโลก ที่มาพร้อมอัตราการเติบโตระดับมหาศาล หากมีโอกาสแนะนำว่าควรได้ไปเยือนกันสักครั้งจริง ๆ นะ

(แต่วงเล็บไว้ก่อนว่าราคาค่าใช้จ่ายอาจจะสูงสักเล็กน้อย หากงบจำกัดอาจต้องวางแผนเผื่ออยู่บ้าง แต่เชื่อเราเถอะ ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ควรไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิตอย่างแน่นอน !)

เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อคนรักการท่องเที่ยวยุโรป โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเสาะแสวงหา Hidden Gem เพื่อการเปิดหูเปิดตาให้กว้างไกลกว่าเคยเป็นมา วันนี้พวกเรา Samurai WiFi ขอนำเสนอเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย และทริกดี ๆ เพื่อการท่องเที่ยวในเมืองเล็กแต่งดงามแห่งนี้ ในชนิดที่เรียกได้ว่า หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว นอกจากจะปลุกสัญชาตญาณนักเที่ยวของทุกคนให้พลุ่งพล่านแล้ว ยังจะทำให้คุณสามารถตะลอนทัวร์ทั่วทั้งเมืองชายฝั่งแห่งนี้ได้ชนิดหลับตาเดินก็ทะลุปรุโปร่งได้ทุกซอกซอยได้แบบไม่ต้องสงสัยเลย

แต่ก่อนอื่น หากคิดจะไปท่องเที่ยวที่โมนาโก เราขอแนะนำบริการอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งานระหว่างทริปเดินทางในราคาสุดคุ้มค่า Pocket WiFi เริ่มต้น 280 บาทต่อวัน และแพ็กเกจซิม ทั้งซิมการ์ดและ eSIM เริ่มต้น 30 วัน 899 บาทเท่านั้น แนะนำว่าหลังจากทำวีซ่าแล้ว รีบทักมาจองบริการของเราไว้ก่อนเลยจะดีที่สุดนะ !

เรื่องราวทั่วไปเกี่ยวกับโมนาโก

ก่อนอื่น โมนาโกมีสถานะเดียวกันกับนครรัฐวาติกัน คือเป็นรัฐเอกราชที่มีเอกราชปกครองตนเอง แต่ยังไม่ได้นับเป็นประเทศเสียทีเดียว เนื่องจากในแง่ของการปกครองแล้ว หน้าที่ในการป้องกันดินแดนยังนับว่าเป็นของฝรั่งเศสอยู่

โดยปกติแล้ว สำหรับชาวไทยที่อยากไปเยือนโมนาโก จำเป็นจะต้องทำวีซ่าเสียก่อน ซึ่งสามารถใช้วีซ่าแชงเก้นร่วมกับอีกหลายประเทศทั่วยุโรปได้ ฉะนั้นแล้ว ถ้าอยากจะมาเยือนโมนาโกแบบไม่ให้เสียเที่ยววีซ่า แนะนำให้วางแพลนเที่ยวที่ประเทศอื่น ๆ ในเครือ EU ก่อนมาปิดทริปที่นี่เป็นอันดับสุดท้ายก็สุดจะเจ๋งแจ๋ว เนื่องจากแม้กระทั่งในหมู่ของชาวยุโรปเอง ก็นิยมมาเยือนที่นี่ในลักษณะของ one-day trip แบบไปเช้าเย็นกลับจากเมืองนีซ (Nice) ประเทศฝรั่งเศส ผ่านการโดยสารรถไฟ

นอกเหนือจากเรื่องวีซ่าที่ใช้ร่วมกับสหภาพยุโรป โมนาโกยังใช้สกุลเงินยูโร (EUR) รวมถึงภาษาราชการเป็นภาษาฝรั่งเศสอีกด้วย หากคุณได้ภาษาฝรั่งเศส การเที่ยวโมนาโกของคุณจะง่ายดายขึ้นมาในบัดดล แต่ถ้าหากยังไม่ได้ฝึกปรือสกิลภาษาฝรั่งเศสมา ก็ยังสามารถสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ อิตาลี หรือภาษาโมเนกาสก์ (Monegasque) ภาษาท้องถิ่นของโมนาโก นอกจากนี้ คนท้องถิ่นโมนาโกส่วนมากยังนับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นเหตุผลให้สามารถมองหาโบสถ์คริสต์และอาสนาวิหารกระจายตัวอยู่ทั่วไปในเมือง หากมีโอกาสจะลองเดินสำรวจดูสักแห่งสองแห่งก็ดีนะ

หลัก ๆ แล้ว โมนาโกมีชื่อเสียงมากในเรื่องของคาสิโน แหล่งช็อปปิ้งภาษีต่ำ และทิวทัศน์ชายหาดสุดตระการตา จึงทำให้กลายเป็นเช็กลิสต์สุดสัปดาห์สำหรับบรรดานักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งรวมถึงฮันนีมูน ซึ่งโมนาโกมีเขตการปกครองหลัก ที่หากเปรียบเทียบแล้วถือเป็นเมืองหลวง คือมอนติคาร์โล (Monte Carlo) ยิ่งไปกว่านั้น ประมาณ 80 – 90% ของนครแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของบรรดารีสอร์ทสุดหรู และร้านค้าแบรนด์ดังให้ได้เลือกสรรช็อปปิ้งเป็นส่วนใหญ่  หากนึกภาพไม่ออก ให้ลองจินตนาการว่ารูปแบบเมืองใกล้เคียงกับมัลดีฟส์ที่อยู่ละแวกประเทศเพื่อนบ้านเราดูได้เลย

ไปโมนาโกช่วงไหนถึงจะดี

เนื่องจากภูมิประเทศที่ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน จึงทำให้โมนาโกได้รับภูมิอากาศตามฉบับเขตเมดิเตอเรเนียนมาเต็มรูปแบบ โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการมาเยี่ยมเยียนโมนาโกคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งถ้าหากจะให้แบ่งตามช่วงเดือนแล้ว เดือนเมษายนและตุลาคม ถือเป็นเดือนที่เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อน เนื่องจากอากาศอบอุ่นกำลังดี และราคาห้องพักถูกลงชนิดครึ่งต่อครึ่ง แต่ถ้าหากจะเน้นเที่ยวแบบโลว์บัดเจ็ต แนะนำให้ไปช่วงพฤศจิกายนถึงมีนาคม เพราะค่าที่พักต่าง ๆ จะถูกลงมากกว่าช่วงแรกที่เราแนะนำไปเสียอีก แต่อาจจะต้องแลกกับจำนวนประชากรที่บางตาเสียหน่อยเพราะถือเป็นช่วง Low Season ที่นักท่องเที่ยวไม่นิยมมาเที่ยวนักด้วยอากาศที่เริ่มเย็น 

(แต่ถ้าสะดวกจะเที่ยวโมนาโกในแบบนักท่องเที่ยวเต็มร้อยเปอร์เซนต์ ท่ามกลางบรรยากาศเปี่ยมชีวิตชีวา แบบไม่แคร์เรื่องงบที่อาจพีคกว่าช่วงอื่น อากาศร้อนระอุ และร้านรวงที่ต้องรอต่อคิวนานพอสมควร ก็แนะนำให้พุ่งไปช่วงซัมเมอร์ได้เลย รับรองว่าจะเจอนักท่องเที่ยวนานาชาติละลานตาชนิดที่จะต้องร้องโห !)

กิจกรรมยอดนิยมในโมนาโก

ด้วยภูมิประเทศที่ติดชายฝั่ง และขนาดเมืองที่ค่อนข้างเล็กจิ๋ว ชนิดที่สามารถเดินชมได้ทั่วด้วยสองเท้า (ถ้าใจคุณสู้พอและไม่กลัวหอบลิ้นห้อยไปเสียก่อน) เพราะฉะนั้นแล้ว หากจะให้กล่าวถึงกิจกรรมหลักที่เหมาะสมต่อการเอนจอยระหว่างอยู่ที่นี่ ก็ย่อมไม่พ้นการเดินป่าและปั่นจักรยานชมวิว ในช่วงตั้งแต่พฤษภาคมถึงตุลาคม ยิ่งได้เดินหรือปั่นจักรยานเลียบชายฝั่งยิ่งเหมาะ

นอกจากนี้ ถ้ามาถึงทะเล แต่ไม่ได้ลงเล่นกิจกรรมทางทะเลก็คงเหมือนมาไม่ถึงถูกมั้ย เพราะฉะนั้นแล้ว หากได้มีโอกาสได้ไปเยือนโมนาโกช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ก็แนะนำว่าอย่างน้อยต้องได้ลองเล่นเซิร์ฟ นอนอาบแดด ลงเล่นน้ำ อาศัยลมแรง ๆ ริมหาดพาว่าวขึ้นบิน หรือก่อกองทรายสักวันหนึ่งนะ

และอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าที่โมนาโกก็ทำได้แม้เป็นโซนเขตร้อน คือกิจกรรมเกี่ยวกับหิมะในช่วงหน้าหนาว ไม่ว่าจะเป็นสโนว์บอร์ดหรือสกี ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เชื่อว่าจะสนุกได้ไม่แพ้จุดยอดนิยมอื่น ๆ ของโลกเลย !

Tips! : การเดินทางในโมนาโก

การมีรถยนต์ส่วนตัวไว้ขับระหว่างท่องเที่ยวในรัฐเล็ก ๆ แห่งนี้ แม้จะดูสะดวกสบาย แต่หากจะให้กล่าวตามตรงก็ค่อนข้างเปล่าประโยชน์พอสมควร เนื่องจากจะต้องใช้เวลาในการหาที่จอดรถนานกว่าเวลาเดินทางบนท้องถนนเสียอีก โดยหากจะให้แนะนำแล้ว การเดินทางด้วยการเดิน จักรยาน เช่าสกูตเตอร์  หรือใช้บริการแท็กซี่อาจจะเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุดแล้ว

ไปโมนาโกแล้วเที่ยวไหน

สถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในโมนาโก ขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการผสมผสานระหว่าวัฒนธรรมตะวันตกยุคเก่า และความทันสมัย ดังจะเห็นได้จากพิพิธภัณฑ์และพระราชวังที่มีให้ได้เยี่ยมชนหลากหลายจุดรายรอบเมือง ไม่ต่างกันจากห้างสรรพสินค้าและคาสิโน และยังไม่รวมถึงจุดพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติอย่างชายหาด หรือทิวทัศน์บริเวณท่าเรือ โดยในบทความนี้ เราจะขอรวบรวมจุดเช็กอินประจำโมนาโกทั้งหมด 5 แห่ง ให้ผู้ที่วางแผนเดินทางไปโมนาโกเร็ว ๆ นี้ได้ไปตามรอยกัน รับรองว่าโดนใจทุกอันแน่นอน

1. พระราชวัง Prince’s (Palais Princier)

นี่คือพระราชวังที่เจ้าผู้ครองนครของโมนาโคอาศัยอยู่จริง!

หากได้มาถึงโมนาโคแล้ว อย่าลืมแวะมาชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่พระราชวัง  Prince’s พระราชวังประจำราชวงศ์กริมัลดี เป็นอันขาด ด้วยจุดเด่นคือการตกแต่งอย่างอลังการ ไม่ว่าจะเป็นห้องชุดรับรอง ซึ่งถูกเนรมิตให้เป็นกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกือบตลอดทั้งปี ประดับประดาด้วยภาพวาดปูนเปียกสีสันสดใสและโคมไฟระย้าหรูหรา หรือจะเดินเยี่ยมชมตามห้องต่าง ๆ เพื่อสำรวจรูปแบบสถาปัตย์และอินทีเรียดีไซน์อันสุดแสนจะประณีตบรรจง โดยที่นี้ยังเป็นที่นิยมอันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวจะแวะมาเยี่ยมชมเป็นอันดับแรก ๆ เมื่องมาถึงโมนาโกอีกด้วย

2. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ  (Oceanographic Museum)

ใครจะรู้ ว่าในประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์ทางทะเลที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นของโลกอยู่ด้วย

ที่นี่คือแหล่งรวมรวมสัตว์น้ำนานนาพันธ์ุ นับหมื่นแสนสายพันธ์ุมาไว้ด้วยกันให้ได้ศึกษา ซึ่งนอกจากจะมีสัตว์ทะเลต่างๆ มากมาย ทั้งสายพันธุ์ปลากว่า 4,000 ชนิด แบคทีเรียที่สามารถมองเห็นได้กว่า 200 กลุ่ม การนำเสนอระบบนิเวศทางทะเลของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและเขตร้อนแล้ว ยังรวบรวมความหลากหลายของวัตถุทะเล ไม่ว่าจะเป็นแบบเรือ โครงกระดูกสัตว์ทะเลเครื่องมืออาวุธและอื่นๆ และข้าวของต่างๆ ของเจ้าชายอัลแบรต์ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไว้อีกด้วย เพราะฉะนั้น หากใครเป็นเป็นผู้รักวิทยาศาสตร์ทางทะเล จะพลาดจุดนี้ไปไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ

3. สนามแข่งรถฟอร์มูลาวัน ( Monaco Street Circuit)

แหล่งประลองเลื่องชื่อสำหรับผู้รักความเร้วชนิดเหยียบมิดไมล์

ใครที่ชอบความเร็ว ความหวาดเสียวจะพลาดที่นี่ไปไม่ได้ เพราะเซอร์กิตเดอโมนาโกแห่งนี้ คือสนามแข่งรถที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในการแข่งขัน Formula 1 แม้แรกเริ่มเดิมที ที่นี่จะไม่ได้ถูกสร้างมาสำหรับแข่งรถโดยเฉพาะ แต่เป็นเพียงถนนในเมืองที่ใช้สัญจรทั่วไป และนำมาดัดแปลงใช้เป็นลานประลองความเร็ว โดยสนามแข่งสุดโด่งดังแห่งนี้มีความยาวต่อรอบ 3.34 กิโลเมตร และถือเป็นสนามที่นักแข่งส่วนใหญ่อยากมาเก็บชัยชนะกันมากที่สุด เพราะเป็นสนามยอดชาเลนจ์ ที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง ด้วยผังสนามที่คดเคี้ยวไปมาและแคบตามสภาพถนนในเมือง และหากจะเปรียบเทียบกับสนามอื่น ๆ ทั่วโลกแล้ว ก็คงจะถือว่าแคบที่สุดในบรรดาสนามแข่งทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะะนั้น ฉายาสนามที่ขับยากและอันตรายที่สุดในโลกจะพ้นไปไหนเสีย

4. Monaco-Ville

อีกย่านใหญ่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง คือ Monaco City หรือย่านเมืองเก่าของโมนาโคแห่งนี้ 

ที่นี่มีชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า Le Roche หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า The Rock เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขาสูงเหนือระดับพื้นดิน โดยหากยืนมองลงไปจากย่านนี้ จะสามารถมองเห็นวิวมุมสูงที่สวยงาม คอนทราสต์กับจุดอื่น ๆ ของเมืองอย่างสิ้นเชิง โดยบริเวณนี้ยังคงความดั้งเดิมตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมยุคกลางอยู่พอสมควร ให้ความรู้สึกแตกต่างจากย่านอื่น ๆ ซึ่งแปรเปลี่ยนไปเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์นไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ที่หาไม่พบจากมุมใด ๆ ก็ตามในโลกนี้อย่างแน่นอน

5. คาสิโนเดอะมอนติคาโล (Casino de Monte-Carlo)

มาถึงแหล่งขึ้นชื่อคาสิโนแห่งยุโรปทั้งที เราก็ขอพูดถึงเสียหน่อยแล้วกัน (แต่บอกไว้ก่อนว่าหนึ่ง ในไทยการพนันยังผิดกฏหมายอยู่ และสอง หากใครเตรียมตัวไปลองเสี่ยงโชคสักครั้ง ก็ต้องเสี่ยงโชคกันอย่างมีสติด้วยนะ)

ที่นี่เป็นคาสิโนที่หรูหราอลังการและเก่าแก่ที่สุดในโลก ! ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Baroque ภายใต้คำสั่งของเจ้าชายชาร์ลส์ที่ 3 เป็นการร่วมกันระหว่างรัฐบาลโมนาโคและกษัตริย์ เพื่อหารายได้เข้าประเทศ และก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล การันตีจากนักเสี่ยงดวงผู้มีระดับทั้งหลายที่ตบเท้าเข้ามาเยี่ยมเยือนกันตลอดปีแบบไม่ขาดสาย ชนิดที่สามารถสร้างเม็ดเงินให้กับโมนาโกได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ นอกจากนั้นแล้ว คาสิโนแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องการบริการ และการเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวมาเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งสถาปัตยกรรมที่หรูหรา ทั้งงานแกะสลัก งานหินอ่อน ห้องโถงสีทอง และยังมีวิวสวย ๆ ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนให้มองพักสายตาอีกด้วย ซึ่งทาร์เก็ตหลักจะเน้นต้อนรับบรรดามหาเศรษฐี ที่ขับรถสปอร์ตเข้ามาจอดเรียงรายด้านหน้าอาคารกันแบบละลานตา หากจะนิยามว่าเป็นสวรรค์ของนักเสี่ยงโชคก็คงไม่ผิดสักเท่าไหร่ (แต่ก็ต้องขอยืนยันว่าจงเล่นกันแบบระมัดระวังนะ ไม่อย่างนั้นจากนักเสี่ยงโชคจะกลายเป็นนักเลี่ยงโชค หมดเนื้อหมดตัวกันแบบไม่รู้ตัวได้ เข้าใจตรงกันนะทุกคน)

สุดท้ายนี้ แม้โมนาโกแห่งนี้จะไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาลมากนัก แต่เชื่อว่าจะต้องมีครบพร้อมสรรพด้วยทุกสิ่งที่ทุกคนมองหาในทริปท่องเที่ยวที่สมบูรณ์สักทริปหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณเริ่มคิดตกลงใจ จะให้ประเทศเล็ก ๆ แต่แบ็กกราวด์แน่นไม่ธรรมดาแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางในการเที่ยวยุโรปครั้งถัดไปของคุณ เราขอแนะนำให้รีบวางแผนทำวีซ่า จองตั๋วบิน จองเน็ตซามูไร แล้วเตรียมเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันให้ไวเลยนะทุกคน!