เที่ยวอุจิ (Uji): เมืองแห่งชาเขียว มรดกโลก และตำนานเก็นจิ

การเดินทางไปอุจิ: วันเดย์ทริปจากเกียวโตและโอซาก้า

การเที่ยวอุจินั้นง่ายและสะดวกมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเป็น วันเดย์ทริป เพราะอุจิเป็นเมืองที่เดินเที่ยวได้สบาย ๆ โดยใช้เวลาเพียงวันเดียว

การเดินทางจากเกียวโต: ง่ายที่สุด

อุจิอยู่ในจังหวัดเกียวโต การเดินทางจึงใช้เวลาสั้นที่สุดและง่ายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักในเกียวโต

ต้นทาง	ปลายทาง	รถไฟที่ใช้	เวลาเดินทางโดยประมาณ
สถานีเกียวโต (Kyoto Station)	สถานี JR Uji	JR Nara Line (Rapid Service)	ประมาณ 20-30 นาที
สถานีเกียวโต (Kyoto Station)	สถานี Keihan Uji	Keihan Uji Line	ประมาณ 40 นาที

เคล็ดลับ: แนะนำให้ใช้ JR Uji เพราะอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลัก
(เช่น วัดเบียวโดอิน และถนนชาเขียว) มากกว่า

สำหรับผู้ที่เดินทางจากโอซาก้า คุณสามารถเดินทางมายังอุจิได้โดยตรง
หรือแวะเที่ยวอุจิระหว่างเดินทางไปเกียวโตได้

・เส้นทาง: ขึ้นรถไฟ JR จากสถานี Osaka หรือ Shin-Osaka ไปยังเกียวโตก่อน
จากนั้นต่อ JR Nara Line ไปยังสถานี JR Uji

・รวมเวลาเดินทาง: ประมาณ 60 – 90 นาที

ข้อควรรู้ในการเลือกสถานี JR Uji

เมืองอุจิมีสองสถานีหลักคือ JR Uji และ Keihan Uji ทั้งสองสถานีอยู่ไม่ไกลกัน แต่ JR Uji มักเป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากมีทางออกที่มุ่งสู่ใจกลางแหล่งชาเขียวและแหล่งท่องเที่ยวดังได้รวดเร็วกว่า

วัดเบียวโดอิน มรดกโลก: สัญลักษณ์แห่งความสงบสุขบนเหรียญ 10 เยน

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจมาเที่ยวอุจิคือการได้มาเยือน วัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple) ซึ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น วัดนี้โด่งดังจนสถาปัตยกรรมของ “วิหารนกฟีนิกซ์” (Phoenix Hall หรือ Hōō-dō) ได้ถูกนำไปพิมพ์ลงบนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น

จุดเด่นของวิหารนกฟีนิกซ์ (เบียวโดอิน)

・วิหารนกฟีนิกซ์:
เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของวัด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอัน (Heian Period) โดดเด่นด้วยรูปทรงที่ดูคล้ายนกฟีนิกซ์กำลังกางปีก (หรือปีกด้านข้างสองปีกและหางด้านหลัง) ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ทำให้ภาพสะท้อนของวิหารบนผิวน้ำมีความงดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

・นกฟีนิกซ์ทองคำ:
บนยอดหลังคามีรูปปั้นนกฟีนิกซ์ทองคำคู่หนึ่งตั้งอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะและความสงบสุข

พิพิธภัณฑ์โฮโชกัง (Hoshokan Museum)

บริเวณใกล้กับวัดเบียวโดอิน มีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสมบัติล้ำค่าและประติมากรรมดั้งเดิมที่ถูกย้ายออกมาจากวิหารเพื่อป้องกันความเสียหาย ทำให้คุณสามารถชมรูปปั้นและโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับวัดแห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด

เดินเล่นบนถนนชาเขียว โอโมเตะซันโด: สวรรค์ของมัทฉะและคาเฟ่

เมื่อพูดถึงการเที่ยวอุจิ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการเดินเล่นบน “ถนนชาเขียว” หรือที่รู้จักกันในชื่อ Byodoin Omotesando ถนนเส้นนี้ทอดยาวไปยังทางเข้าวัดเบียวโดอิน และเต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชาเขียวและมัทฉะคุณภาพเยี่ยม

พิกัดร้านค้าและคาเฟ่ที่พลาดไม่ได้

ตลอดทางเดิน โอโมเตะซันโด คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมของชาเขียวที่อบอวลไปทั่ว ลองแวะร้านค้าเพื่อซื้อของฝากคุณภาพดี เช่น ใบชาอุจิ, ขนมโมจิชาเขียว, หรือแม้แต่ไอศกรีมมัทฉะรสเข้มข้น

ประเภท	เมนูแนะนำ
คาเฟ่ / ร้านขนม	พาร์เฟต์มัทฉะ (Matcha Parfait), เค้กชาเขียว
ร้านของฝาก	ใบชาอุจิเกรดพรีเมียม, ขนมดังโงะมัทฉะ

ลิ้มลอง โซบะชาเขียว เมนูเฉพาะถิ่น

นอกจากของหวานแล้ว อุจิยังมีเมนูคาวที่ใช้ชาเขียวเป็นส่วนผสมหลักอย่าง “โซบะชาเขียว” ซึ่งเป็นเมนูเฉพาะถิ่นที่คุณควรลอง เส้นโซบะจะมีสีเขียวอ่อนและมีกลิ่นหอมของชาเบา ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปดาชิรสกลมกล่อม เป็นการผสมผสานรสชาติที่ไม่เหมือนใคร

สะพานอุจิ, แม่น้ำอุจิ และตำนานเก็นจิ: เสน่ห์เหนือกาลเวลา

เสน่ห์ของอุจิไม่ได้มีเพียงแค่วัดและชาเขียว แต่ยังมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงามริม แม่น้ำอุจิ และเรื่องราวทางวรรณกรรมที่ฝังลึกในวัฒนธรรม

สะพานอุจิ: จุดชมวิวริมแม่น้ำอุจิ

สะพานอุจิ (Uji Bridge) ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญและเป็นหนึ่งในสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น สะพานแห่งนี้เชื่อมโยงทั้งสองฝั่งของ แม่น้ำอุจิ และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะถ่ายรูปและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ริมแม่น้ำอุจิในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีมีความงดงามเป็นพิเศษ

ตามรอย ตำนานเก็นจิ และ ศาลเจ้า เก่าแก่

ตำนานเกนจิ หรือ เกนจิ โมโนกาตาริ เป็นวรรณกรรมคลาสสิกของญี่ปุ่น เขียนโดย มุราซากิ ชิคิบุ ในสมัยเฮอัน ถือเป็นนวนิยายยาวเล่มแรกของโลกด้วย

・ตำนานเก็นจิ (The Tale of Genji): เมืองอุจิถูกกล่าวถึงในส่วนสุดท้ายของนวนิยายคลาสสิกเรื่องนี้ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นนวนิยายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก บริเวณใกล้เคียงมี “พิพิธภัณฑ์ตำนานเก็นจิ” ที่จัดแสดงเรื่องราวและวัฒนธรรมสมัยเฮอันที่เกี่ยวข้องกับนิยาย

・ศาลเจ้าอุจิกามิ (Ujigami Jinja) และ ศาลเจ้าอุจิ (Uji Jinja): ศาลเจ้าทั้งสองนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่ของเมือง และศาลเจ้าอุจิกามิยังเป็นอีกหนึ่งมรดกโลกของอุจิอีกด้วย การมาเยือนศาลเจ้าเหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสถึงความเชื่อและประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น

ปักหมุดร้านชาเขียวชื่อดัง: Itohkyuemon และ Nakamura Tokichi

สำหรับผู้ที่มาเที่ยวอุจิและเป็นนักชิมตัวยง สองร้านชาคู่แข่งที่เปิดมายาวนานและมีชื่อเสียงระดับโลกที่คุณต้องไปเยือนคือ:

Itohkyuemon (อิโตคิวเอมอน)

・จุดเด่น: ร้านเก่าแก่ที่โดดเด่นเรื่องของหวานมัทฉะตามฤดูกาล
และมีชื่อเสียงจากขนมและของฝากที่บรรจุภัณฑ์สวยงาม

・แนะนำ: เมนูพาร์เฟต์ชาเขียวประจำฤดูกาล และการซื้อของฝากประเภทใบชา

Nakamura Tokichi (นากามูระ โทคิจิ)

・จุดเด่น: ร้านชาที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว
มีบรรยากาศร้านที่สงบ เป็นร้านชาขนานแท้ที่ยังคงรักษาวิธีการชงแบบดั้งเดิม

・แนะนำ: โซบะชาเขียว, มัทฉะเซ็ต, และของหวานในชามไม้ไผ่

ทั้งสองร้านนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมชาเขียวอย่างแท้จริง และมักมีสาขาใกล้กับสถานี JR Uji และเบียวโดอิน

 

อย่าปล่อยให้การมาเยือนญี่ปุ่นของคุณขาดรสชาติของมัทฉะแท้!

วางแผนการเดินทางของคุณไปที่อุจิวันนี้ เพื่อสัมผัสกับเสน่ห์ของถนนชาเขียว และเยี่ยมชมวัดเบียวโดอิน มรดกโลก หากคุณต้องการข้อมูลแพลน วันเดย์ทริป ที่ละเอียดมากขึ้น หรือต้องการจองตั๋วรถไฟ JR ที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทางจากเกียวโตและโอซาก้า

เริ่มทริป Uji ของคุณกับ WiFi ที่ไว้ใจได้จาก BANGKOK SAMURAI!
SAMURAI WiFi – Pocket WiFi เช่าได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลก!
ดูรายละเอียดแพ็กเกจและโปรโมชั่นพิเศษได้ ที่นี่

SAMURAI SIM / eSIM
เพียง “ใส่ซิม” หรือ “สแกน QR Code” ก็ใช้งานได้ทันทีทั่วโลก 
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

---

อุจิ เมืองที่เต็มไปด้วยรสชาติและตำนาน

เที่ยวอุจิ คือการเดินทางที่ไม่เพียงแต่ทำให้คุณอิ่มเอมกับรสชาติของชาเขียวและมัทฉะคุณภาพเยี่ยม แต่ยังเป็นการเดินทางย้อนรอยประวัติศาสตร์และวรรณกรรมของญี่ปุ่น การมาเยือนวัดเบียวโดอินที่เป็นมรดกโลก การเดินเล่นริม แม่น้ำอุจิ ข้าม สะพานอุจิ หรือการตามรอย ตำนานเก็นจิ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ วันเดย์ทริป จาก เกียวโต หรือ โอซาก้า

เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบเงียบ บรรยากาศอบอุ่น และกลิ่นหอมของชาเขียวที่ยากจะลืมเลือน