รู้จัก “อะจิไซ” (ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น) ให้มากขึ้น

“อะจิไซ” (Ajisai) คือชื่อภาษาญี่ปุ่นของดอกไฮเดรนเยีย ดอกไม้ชนิดนี้มีความผูกพันกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในฐานะสัญลักษณ์ของการมาเยือนของ ฤดูฝน หรือ “สึยุ” (Tsuyu)
สิ่งที่ทำให้ ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น มีเสน่ห์เป็นพิเศษคือความสามารถในการเปลี่ยน สี และ ความหมาย ที่ลึกซึ้งของมัน

ความมหัศจรรย์ของ “สี” ที่เปลี่ยนไป

คุณอาจเคยได้ยินว่าสีของไฮเดรนเยียขึ้นอยู่กับค่า pH ของดิน ซึ่งเป็นเรื่องจริงครับ!

• ดินที่เป็นกรด (Acidic Soil): จะทำให้ดอกไม้มีสีฟ้าสดใส
• ดินที่เป็นด่าง (Alkaline Soil): จะทำให้ดอกไม้มีสีชมพูหรือสีม่วงแดง
• ดินที่เป็นกลาง: มักจะได้สีม่วงอ่อนหรือสีครีม

ด้วยเหตุนี้ ใน สวน หรือ วัด แห่งหนึ่ง คุณอาจได้เห็นไฮเดรนเยียหลายเฉดสีบานสะพรั่งพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์

“ความหมาย” ที่ซ่อนอยู่ของดอกไฮเดรนเยีย

ในภาษาดอกไม้ของญี่ปุ่น ไฮเดรนเยียมีความหมายที่หลากหลาย แต่ความหมายที่โดดเด่นที่สุดคือ “ความไม่แน่นอน” หรือ “หัวใจที่แปรปรวน” ซึ่งเปรียบได้กับสีของมันที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ไฮเดรนเยียยังถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของ “การขอบคุณ” (สำหรับการเข้าใจในความไม่แน่นอน) และ “ความผูกพันในครอบครัว” เนื่องจากการที่ดอกเล็กๆ เกาะกลุ่มกันเป็นช่อใหญ่นั่นเอง

พยากรณ์ ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น 2025: บานช่วงไหนดีที่สุด?

โดยทั่วไป ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น จะเริ่ม บาน พร้อมกับการเริ่มต้นของ ฤดูฝน ใน เดือนมิถุนายน และจะบานสวยที่สุดไปจนถึงช่วงกลางเดือนกรกฎาคม
แม้ว่า พยากรณ์ อย่างเป็นทางการสำหรับปี 2025 จะยังไม่ประกาศ (ปกติจะประกาศช่วงเดือนพฤษภาคม) แต่เราสามารถคาดการณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดโดยอิงจากสถิติที่ผ่านมาได้ดังนี้:

ภูมิภาค	เมืองหลัก	ช่วงเวลาที่บาน (คาดการณ์)
คิวชู (Kyushu)	ฟุกุโอกะ	ปลายเดือนพฤษภาคม – กลางเดือนมิถุนายน
คันไซ (Kansai)	โอซาก้า, เกียวโต	ต้นเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนกรกฎาคม
คันโต (Kanto)	โตเกียว, คามาคุระ	กลางเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม
โทโฮคุ (Tohoku)	เซนได	ปลายเดือนมิถุนายน – ปลายเดือนกรกฎาคม
ฮอกไกโด (Hokkaido)	ซัปโปโร	เดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคม

ข้อแนะนำ: สำหรับการวางแผนที่ดีที่สุด ควรตรวจสอบพยากรณ์การบาน (Ajisai Forecast) อีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคมก่อนเดินทางครับ

รวม 7 สุดยอดจุดชม ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น (อัปเดตล่าสุด)

ญี่ปุ่นมี จุดชม ไฮเดรนเยียที่สวยงามนับไม่ถ้วน แต่มีสถานที่ที่เป็น “ไฮไลท์” ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาค คันโต และ คันไซ

ภูมิภาค “คันโต” (Kanto): ใกล้โตเกียว

หากคุณมีฐานที่มั่นใน โตเกียว การเดินทางไปชมไฮเดรนเยียที่ คามาคุระ ถือเป็นทริปหนึ่งวันที่ห้ามพลาด

1. วัดเมเก็ตสึอิน (Meigetsuin) – คามาคุระ

• จุดเด่น: ได้รับฉายาว่า “วัดไฮเดรนเยีย” (Ajisai-dera) ที่นี่มีชื่อเสียงจากไฮเดรนเยียสีฟ้าสายพันธุ์ “ฮิเมะ อะจิไซ” (Hime Ajisai) นับพันต้นที่บานสะพรั่งทั่วบริเวณวัด สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงามราวกับภาพวาด
• การเดินทาง: เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานี JR Kita-Kamakura

2. วัดฮาเสะเดระ (Hasedera Temple) – คามาคุระ

• จุดเด่น: “ทางเดินไฮเดรนเยีย” (Ajisai-ro) ที่ทอดยาวขึ้นไปบนเนินเขา ที่นี่มีไฮเดรนเยียกว่า 40 สายพันธุ์ มากกว่า 2,500 ต้น คุณสามารถชมดอกไม้หลากสีสัน พร้อมกับวิวทะเลเมืองคามาคุระจากมุมสูง
• การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Hase ของรถไฟสาย Enoden

3. ศาลเจ้าฮาคุซัน (Hakusan Shrine) – โตเกียว

• จุดเด่น: หากไม่อยากเดินทางไกล ที่นี่คือจุดชมที่ดีที่สุดใน โตเกียว มีไฮเดรนเยียประมาณ 3,000 ต้น และในช่วงกลางเดือนมิถุนายน มักจะมี เทศกาล “บุงเคียว อะจิไซ มัตสึริ” (Bunkyo Ajisai Matsuri)
• การเดินทาง: เดิน 3 นาทีจากสถานี Hakusan (Toei Mita Line)

4. สวนอาชิกางะ ฟลาวเวอร์ พาร์ค (Ashikaga Flower Park) – โทชิกิ

• จุดเด่น: แม้จะดังเรื่องดอกวิสทีเรีย แต่ในฤดูฝน สวน แห่งนี้ก็จะเต็มไปด้วยไฮเดรนเยียกว่า 2,500 ต้น ที่บานอวดสีสันสวยงามไม่แพ้กัน
• การเดินทาง: เดิน 3 นาทีจากสถานี Ashikaga Flower Park (JR Ryomo Line)

ภูมิภาค “คันไซ” (Kansai)

5. วัดมิมูโระโทจิ (Mimurotoji Temple) – เกียวโต

• จุดเด่น: เป็น “วัดดอกไม้” ที่มีชื่อเสียงของเกียวโต ในช่วงฤดูฝน สวนไฮเดรนเยียขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้กว่า 20,000 ต้น (มากกว่า 50 สายพันธุ์) จะบานพร้อมกัน สร้างภาพที่งดงามตระการตา
• การเดินทาง: นั่งรถบัสจากสถานี Uji (JR หรือ Keihan Line)

6. สวนปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park) – โอซาก้า

• จุดเด่น: “สวนไฮเดรนเยีย” (Ajisai-en) ภายในสวนปราสาทโอซาก้า เป็นจุดชมที่เดินทางสะดวกมาก คุณจะได้ชื่นชมดอกไม้หลากสีสัน โดยมีฉากหลังเป็นปราสาทโอซาก้าอันยิ่งใหญ่
• การเดินทาง: ใกล้กับสถานี Morinomiya (JR หรือ Osaka Metro)

นั่ง “รถไฟ” ชมวิวสุดโรแมนติก

7. รถไฟสายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Railway)

• จุดเด่น: นี่คือประสบการณ์พิเศษที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่น รถไฟ ไต่เขาขบวนนี้จะวิ่งผ่านหุบเขาที่เต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่งอยู่สองข้างทาง จนได้รับฉายาว่า “รถไฟสายอะจิไซ”
• ช่วงเวลา: กลางเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม
• การเดินทาง: เริ่มต้นที่สถานี Hakone-Yumoto

การเตรียมตัวและ “การเดินทาง” ไปชมไฮเดรนเยีย

การไปชม ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น หมายถึงการไปเที่ยวในช่วง ฤดูฝน ดังนั้นการเตรียมตัวจึงสำคัญมาก

• ร่ม หรือ เสื้อกันฝน:
  ควรพกร่มพับคุณภาพดี หรือเสื้อกันฝนแบบคลุมทั้งตัวเพื่อความคล่องตัวในการถ่ายภาพ
• รองเท้ากันน้ำ: การเดินใน วัด หรือ สวน ที่เปียกชื้น ควรเลือกรองเท้าที่กันน้ำและเดินสบาย
• ผ้าขนหนูผืนเล็ก: สำหรับเช็ดมือ เช็ดกล้อง หรือซับความชื้น
• การเดินทางด้วย “รถไฟ”: แนะนำให้ใช้บัตร IC Card (เช่น Suica หรือ ICOCA) หรือพาสรถไฟที่ครอบคลุมพื้นที่ (เช่น JR Pass, Kansai Thru Pass) เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปยัง จุดชม ต่างๆ
• อินเทอร์เน็ต (สำคัญมาก): การตรวจสอบพยากรณ์ อากาศ ตาราง รถไฟ และการใช้ Google Maps เพื่อหาเส้นทางไปยัง วัด หรือ ศาลเจ้า ที่ค่อนข้างซับซ้อน อินเทอร์เน็ตที่เสถียรคือสิ่งจำเป็นที่สุด

 

---

เดินชม “อะจิไซ” ไม่มีสะดุด เน็ตต้องพร้อม!

การ เดินทาง ไปยัง จุดชม ไฮเดรนเยียที่สวยงามหลายแห่ง เช่น วัด หรือ ศาลเจ้า บนภูเขา อาจต้องใช้ Google Maps หรือตรวจสอบตาราง รถไฟ ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้เน็ตสะดุดทำลายทริปของคุณ!
BANGKOK SAMURAI ขอเสนอ Pocket WiFi และ eSIM สำหรับใช้ที่ญี่ปุ่น ให้คุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ไม่จำกัด อัปโหลดรูปสวยๆ ได้ทันที และไม่พลาดทุกการติดต่อ

SAMURAI WiFi – Pocket WiFi เช่าได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลก!
ดูรายละเอียดแพ็กเกจและโปรโมชั่นพิเศษได้ ที่นี่

SAMURAI SIM / eSIM
เพียง “ใส่ซิม” หรือ “สแกน QR Code” ก็ใช้งานได้ทันทีทั่วโลก 
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

---

ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น หรือ “อะจิไซ” ไม่ใช่แค่ดอกไม้

แต่เป็นสัญลักษณ์ที่เปลี่ยน ฤดูฝน ที่น่าเบื่อหน่ายให้กลายเป็นฤดูกาลที่เต็มไปด้วย สี สันและความมีชีวิตชีวา ไม่ว่าคุณจะเลือกไป คามาคุระ เพื่อสัมผัสบรรยากาศเก่าแก่ใน วัด หรือนั่ง รถไฟ ชมวิวที่ฮาโกเนะ หรือสำรวจ สวน สวยใน โตเกียว และ คันไซ ประสบการณ์การชมดอกไม้ท่ามกลางสายฝนนี้จะเป็นความทรงจำที่งดงามและประทับใจอย่างแน่นอน