การขับรถเที่ยวในญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เป็นอีกวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวไทยกังวลใจมากที่สุดไม่ใช่เรื่องพวงมาลัย หรือ เรื่องที่จอดรถ แต่เป็นเรื่อง “ทางด่วนญี่ปุ่น” และ “วิธีจ่ายค่าทางด่วนญี่ปุ่น” ที่ดูซับซ้อน ทั้งเรื่องราคา ประเภทช่องทาง และบัตร ETC
ใครที่เคยขับรถในญี่ปุ่นจะรู้ว่า ทางด่วนญี่ปุ่น ราคาสูงเอาเรื่อง และระบบการจ่ายเงินถ้าเตรียมตัวไม่ดี อาจจะทำให้การเดินทางติดขัดได้ บทความนี้ผมจะมาแชร์วิธีรับมือกับทางด่วนญี่ปุ่นแบบ Step-by-step จากประสบการณ์จริง พร้อมข้อมูลอ้างอิงจากหน่วยงานจราจรญี่ปุ่น เพื่อให้คุณขับรถเที่ยวได้อย่างมั่นใจครับ
บทความนี้เหมาะสำหรับ
・มือใหม่ ที่กำลังจะเช่ารถขับในญี่ปุ่นครั้งแรก
・คนที่ลังเลว่าควรจ่ายเพิ่มเพื่อเช่า บัตร ETC ดีไหม?
・คนที่กังวลเรื่องการสื่อสารและกฎจราจรหน้าด่านเก็บเงิน
Table of Contents
1. เรื่องต้องรู้: ทางด่วนญี่ปุ่นแพงจริงไหม?

Cr. 625.jp
ตอบจากประสบการณ์ตรงเลยครับว่า “ค่อนข้างแพง” เมื่อเทียบกับไทย แต่แลกมาด้วยคุณภาพถนนที่ดีเยี่ยม และประหยัดเวลาเดินทางได้มหาศาลครับ
ระบบทางด่วนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คิดราคาตามระยะทาง
โดยเฉลี่ยกิโลเมตรละ 25-30 เยน บวกค่าธรรมเนียมพื้นฐาน
💡 คำแนะนำจากผม: ก่อนออกเดินทาง ผมแนะนำให้ลองคำนวณค่าทางด่วนล่วงหน้าครับ เพื่อจะได้เตรียมงบประมาณถูก โดยสามารถเช็กได้จากเว็บไซต์ทางการของบริษัททางด่วน (NEXCO)
อ้างอิงเว็บไซต์ทางการ:
NEXCO West – Toll Search / Route Search (สำหรับค้นหาเส้นทางและราคาค่าผ่านทางที่แม่นยำ)
2. ETC vs เงินสด: ประสบการณ์จริงแบบไหนเวิร์กกว่า

Cr. Pixta
ทริปแรกๆที่ผมเคยลองขับรถขึ้นทางด่วนญี่ปุ่น ผมเคยลองไม่เช่าบัตร ETC เพราะคิดว่าจะประหยัดค่าเช่าบัตร (ประมาณ 330 เยน)
แต่ผลลัพธ์คือ “รู้งี้เช่าดีกว่า” ครับ
เพราะอะไร? มาดูความแตกต่างกัน:
แบบเงินสด (Cash / Credit Card)
ความยุ่งยาก: ต้องหยุดรถสนิทเพื่อหยิบตั๋ว (ขาเข้า) และหยุดจ่ายเงิน (ขาออก)
ปัญหาที่เจอ:
・บางด่านในชนบทรับแต่ “เงินสด (Cash Only)” ไม่รับบัตรเครดิต ทำให้ต้องควานหาเหรียญวุ่นวาย
・ถ้าเป็นรถพวงมาลัยขวา แต่ตู้จ่ายเงินอยู่ฝั่งซ้าย (เจอบ้างในด่านเก่าๆ)
ต้องเอื้อมตัวจนสุดแขน หรือต้องปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อยื่นเงิน
แบบ ETC Card (แนะนำสุดๆ)
ความสะดวก: ขับผ่านได้เลยเหมือนใช้ Easy Pass / M-Flow บ้านเรา ชีวิตง่ายขึ้นเยอะครับ
ส่วนลด: หลายครั้งช่วงกลางคืนหรือวันหยุด (Weekend Discount)
ระบบ ETC จะลดราคาให้อัตโนมัติประมาณ 30% ซึ่งถ้าจ่ายเงินสดจะไม่ได้สิทธิ์นี้ครับ
วิธีใช้งาน: แค่แจ้งร้านรถเช่าว่าขอเช่า ETC Card เขาจะให้การ์ดเรามาเสียบเข้าเครื่อง OBU (On-Board Unit) ที่ติดมากับรถครับ
3. How-to: วิธีขับผ่านด่านเก็บเงินทางด่วนญี่ปุ่น (อย่าเข้าผิดช่อง!)

Cr. OhHoTrip.com.
จุดนี้คือไฮไลต์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหลาย “เหงื่อตก” กันมาเยอะครับ เพราะป้ายเยอะไปหมด
เทคนิคการจำง่ายๆ ที่ผมใช้คือ “ดูสีพื้นหลังป้าย” ครับ
🟣 สีม่วง = “ETC เท่านั้น” (ETC専用)
สำหรับ: รถที่เสียบการ์ด ETC พร้อมใช้งาน
วิธีขับ: ชะลอความเร็วให้เหลือ ต่ำกว่า 20 กม./ชม. (เน้นว่าช้ามากๆ นะครับ) เมื่อไม้กั้นเปิดค่อยไปต่อ
ข้อควรระวัง: ถ้าไม่มีบัตร ห้ามเข้าช่องนี้เด็ดขาด
🟢 สีเขียว = “ทั่วไป/เงินสด” (一般)
สำหรับ: คนที่จ่ายเงินสด หรือบัตรเครดิต
วิธีขับ: ต้องจอดสนิทเพื่อรับตั๋วหรือจ่ายเงิน
🟣🟢 สีม่วงและเขียว = “เข้าได้ทั้งคู่” (ETC/一般)
ช่องนี้มักเจอตามด่านเล็กๆ ต่างจังหวัด เข้าได้ทั้งสองแบบ แต่ต้องระวังรถคันหน้าอาจจะจอดจ่ายเงินครับ
อ้างอิงกฎจราจร:
หากต้องการศึกษาป้ายจราจรเพิ่มเติม ผมแนะนำให้ดูคู่มือจาก JAF (Japan Automobile Federation) ครับ มีประโยชน์มากสำหรับคนขับรถเที่ยว
เว็บไซต์ทางการ: JAF – Traffic Rules in Japan
4. Expressway Pass ตัวช่วยประหยัดเงินสำหรับทางด่วนญี่ปุ่น
คุณเป็นวางแผนขับรถข้ามจังหวัดไกลๆ (เช่น ขับรอบเกาะคิวชู)
ผมแนะนำให้ลองเปิดใจให้ Expressway Pass ครับ
มันคือ “บัตรเหมาจ่ายค่าทางด่วน” สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ
จ่ายราคาเดียวขึ้นลงกี่รอบก็ได้
Pass ยอดฮิตที่ผมเคยใช้:
HEP (Hokkaido Expressway Pass): สำหรับเที่ยวฮอกไกโด
KEP (Kyushu Expressway Pass): สำหรับโซนคิวชู
CEP (Central Nippon Expressway Pass): สำหรับโซนจูบุ (นาโกย่า/ชิราคาวาโกะ)
เงื่อนไขสำคัญ:
ต้องเช่าพร้อมกับรถเช่า และต้องใช้คู่กับ ETC Card เท่านั้นครับ
5. Q&A: ตอบคำถามเกี่ยวกับทางด่วนญี่ปุ่น
Q: ขึ้นทางด่วนญี่ปุ่น ถ้าเผลอขับเข้าช่อง ETC แต่ไม่ได้เสียบบัตร ไม้กั้นไม่เปิด ทำยังไง?
A: เคยมีเพื่อนผมตกใจแล้วจะถอยรถ… ห้ามถอยหลังเด็ดขาดนะครับ!
อันตรายมาก สิ่งที่ต้องทำคือ:
・เหยียบเบรก หยุดรถหน้ารั้วกั้น
・เปิดไฟฉุกเฉิน
・กดปุ่ม Intercom ที่ตู้เพื่อเรียกเจ้าหน้าที่ เขาจะเดินมาเก็บเงินหรือแนะนำวิธีแก้ไขให้ครับ
(เจ้าหน้าทางด่วนญี่ปุ่นบริการดีและใจเย็นครับ ไม่ต้องกลัว)
Q: ใช้ใบขับขี่ Smart Card ของไทยเช่ารถได้ไหม?
A: ไม่ได้ครับ ญี่ปุ่นเข้มงวดมาก คุณต้องใช้ “ใบขับขี่สากล (International Driving Permit)” ตามอนุสัญญา Geneva 1949 (เล่มกระดาษสีเทา) เท่านั้น และต้องพกใบขับขี่ไทยตัวจริงคู่กันเสมอครับ
Q: คืนรถแล้วจ่ายเงินค่าทางด่วนยังไง?
A: ระบบจะบันทึกยอดเงินไว้ในชิปการ์ด ETC ครับ พอกลับมาถึงศูนย์คืนรถ พนักงานจะดึงการ์ดไปสแกน แล้วพิมพ์ใบเสร็จออกมาให้เราจ่ายเงินรวมทีเดียว สะดวกมากครับ
Q: มี Expressway Pass สำหรับเที่ยวใน “โตเกียว” หรือ “โอซาก้า” ไหม?
A: คำตอบสั้นๆ คือ “ไม่มีแบบครอบคลุมทั้งหมด” ครับ
หลายคนคุ้นเคยกับ HEP (ของฮอกไกโด) หรือ KEP (ของคิวชู) ที่เหมาจ่ายง่ายๆ
แต่สำหรับโซนเมืองใหญ่อย่างโตเกียว (Kanto) และโอซาก้า (Kansai) จะมีความซับซ้อนกว่าครับ
🚗 พร้อมลุยทางด่วนญี่ปุ่นหรือยังครับ?
ขั้นตอนต่อไปที่ผมแนะนำคือ ตอนจองรถเช่าออนไลน์
อย่าลืมติ๊กช่อง “Request ETC Card” ไว้ด้วยนะครับ
หรือถ้าจองไปแล้ว ลองส่งอีเมลไปคอนเฟิร์มกับบริษัทรถเช่าอีกครั้ง
เพื่อให้แน่ใจว่าวันรับรถ คุณจะมีตัวช่วยเดินทางที่สำคัญที่สุดชิ้นนี้ติดรถไปด้วยครับ
และเพื่อให้มีสัญญาณเน็ตตลอดเวลาที่อยู่บนทางด่วนญี่ปุ่น
อย่าลืมพกเน็ตดีๆจาก BANGKOK SAMURAI ไปด้วยนะครับ
Pocket WiFi/SIM/eSIM ที่มีคุณภาพจาก BANGKOK SAMURAI
พร้อมให้คุณท่องโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะแชร์ภาพสวย ๆ หรือใช้งานแผนที่ ก็มั่นใจได้ตลอดทริป!
SAMURAI WiFi – Pocket WiFi เช่าได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลก!
ดูรายละเอียดแพ็กเกจและโปรโมชั่นพิเศษได้ ที่นี่
SAMURAI SIM / eSIM
เพียง “ใส่ซิม” หรือ “สแกน QR Code” ก็ใช้งานได้ทันทีทั่วโลก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
การขับรถเที่ยวในญี่ปุ่นจะสนุกขึ้นเป็นเท่าตัว
ถ้าคุณตัดความกังวลเรื่องการจ่ายเงินออกไปครับ
สุดท้ายนี้ผมฝากไว้สามอย่าง เพื่อเป็นการสรุปเกี่ยวกับการขึ้นทางด่วนญี่ปุ่นนะครับ
1. ยอมจ่ายค่าเช่า ETC Card เถอะครับ:
สะดวกกว่า ประหยัดเวลากว่า และลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุหน้าด่าน
2. สังเกตสีป้าย: 🟣 ม่วงไปได้เลย (ถ้ามีบัตร) / 🟢 เขียวต้องจอดจ่าย
3. เคารพกฎ: ขับตาม Speed Limit (80-100 กม./ชม.) อย่างเคร่งครัดนะครับ
ขอให้ทุกท่านได้มีโอกาสลองประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น การขับรถที่ญี่ปุ่น
และขอให้มีความสุขกับทริปญี่ปุ่นนะครับ










